การละเล่นเด็กไทย เป็นการละเล่นของเด็กตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ในปัจจุบันมักไม่ค่อยได้พบเห็นการละเล่นประเภทเหล่านี้กันบ่อยนัก เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมีสิ่งต่างๆ เข้ามาทำให้วิถีชีวิตของเด็กๆ เปลี่ยนแปลงไป การละเล่นเหล่านี้ก็เลือนหายไปด้วยเช่นกัน แต่ก็อาจจะมีพบบ้างในต่างจังหวัด การละเล่นเด็กไทยเป็นการส่งเสริมให้เด็ก ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเป็นกิจกรรมที่แฝงไว้ ด้วยสัญลักษณ์ หากศึกษาการเล่นของเด็กในสังคม เท่ากับได้ศึกษาวัฒนธรรมของสังคมนั้นด้วย การละเล่นก็เป็นเรื่องที่สืบ เนื่องแสดงถึงเอกลักษณ์ของชนชาติหรือท้องถิ่นเป็นเรื่องที่ถ่ายทอดเข้าสู่กระแสชีวิตและตกทอดกันมา วันนี้จะพาย้อนอดีตไปชมการละเล่นของไทยในอดีตกันดูว่า จะมีการละเล่นอะไรที่คุณเคยเล่นมาแล้วบ้าง
- กระโดดเชือก / กระโดดหนังยาง
การกระโดดเชือกมี 2 แบบ คือ การกระโดดเชือกเดี่ยว และการกระโดดเชือกหมู่ ใช้หนังหนังยางถักร้อยจนเป็นเส้นยาว หรือ เชือกปอ ยาวพอที่จะตวัดพ้นศีรษะ ขมวดหัวท้ายเพื่อกันเชือกลุ่ย เวลาเล่นแกว่งเชือกด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วกระโดขึ้นลงตรงกลาง การกระโดดเชือกหมู่จะใช้เชือกที่ยาวกว่า มีผู้เล่นสองคนจับหัวท้ายข้างละคน คอยแกว่งหรือไกวเชือก สามารถกระโดดได้พร้อมกันหลายๆ คน
- ตั้งเต
การกระโดดขาเดียวไปภายในช่องสี่เหลี่ยมที่ขีดขึ้นบนพื้น ขนาด 5 แถว คูณ 2 คอลัมน์ (รวม 10 ช่อง) ทีละช่อง
- ม้าก้านกล้วย
ตามปกติแล้ว หมู่บ้านของคนไทยในอดีตมักจะปลูกต้นกล้วยไว้แทบทุกแห่ง ดังนั้นใบกล้วยจึงเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์หลายๆ อย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการนำมาทำเป็นม้าก้านหล้วย ซึ่งแล้วแต่เด็กจะเล่นม้าก้านกล้วยในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งแข่งหรือวิ่งไล่กัน หรือจะนำมาเล่นต่อสู้กัน
- ขี่ม้าส่งเมือง
แบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย แล้วเลือกผู้เล่น 1 คน มาเล่นเป็นเจ้าเมือง ฝ่ายที่เริ่มก่อนจะกระซิบความลับให้เจ้าเมืองทราบ (อาจจะเป็นชื่อคนหรือเรื่องที่ตกลงกันไว้) ถ้าฝ่ายตรงข้ามทายถูกเจ้าเมืองจะบอกว่า “โป้ง” ฝ่ายที่ทายถูกก็จะชนะ และได้ฝ่ายแรกเป็นเชลย ถ้าทายผิดก็จะต้องตกเป็นเชลย ฝ่ายใดตกเป็นเชลยหมดก่อน ต้องเป็นม้าให้อีกฝ่ายหนึ่งขี่หลังไปส่งเมือง
- กาฟักไข่
บางแห่งเรียกกว่า “ซิงไข่เต่า” ผู้เล่นเป็นอีกาหรือเต่าจะเข้าไปอยู่ในวงกลมที่ขีดไว้ คนอื่นๆอยู่นอกวงกลม พยายามแย่งเอาก้อนหินที่สมมุติว่าเป็นไข่มาให้ได้ อีกาหรือเต่าจะปัดป่ายแขนขาไปมา ถ้าโดนผู้ใดผู้นั้นจะต้องมาเล่นเป็นอีกาแทนทันที แต่ถ้าไข่ถูกแย่งหมด อีกาหรือเต่าจะต้องไปตามหาไข่ที่ผู้อื่นซ่อนไว้ หากหาไม่พบจะถูกจูงหูไปหาไข่ที่ซ่อนไว้ เป็นการลงโทษ
- มอญซ่อนผ้า
ทุกคนนั่งล้อมวงช่วยกันร้องว่า “มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ” มอญจะถือผ้าเดินรอบวงแล้วแอบหย่อนผ้า ไว้ข้างหลังผู้เล่นคนใดคนหนึ่ง หากผู้เล่นคนนั้นรู้ตัวก่อนก็จะหยิบผ้ามาไล่ตีมอญ แล้ววิ่งมานั่งที่เดิม แต่หากว่ามอญเดินกลับมาอีกรอบหนึ่ง แล้วผู้เล่นคนนั้นยังไม่รู้ตัว ก็จะถูกมอญเอาผ้าตีหลัง และต้องเล่นเป็นมอญแทน
เป็นอย่างไรกันบ้าง เยเล่นการละเล่นอันไหนมาแล้วบ้าง เชื่อว่าคนยุค 90 ขึ้นไปจะต้องเคยเล่นไม่ต่ำกว่า 4 การละเล่นแน่นอน กิจกรรมเหล่านี้เป็นสีสันที่จะทำให้เด็กๆได้มีเพื่อน และเสริมสร้างความรักความสามัคคี แถมยังได้ความสนุกอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่การละเล่นเหล่านี้เหลือน้อยลงทุกทีแล้ว